บทที่2

วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง

           ในการจัดทำการศึกษาค้นคว้าเสื้อผ้าแนวๆ การทำ เสื้อผ้าแนวๆความรู้เกี่ยวกับการทำเสื้อผ้าแนวๆผู้จัดทำ ได้ศึกษาข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องดังนี้

 - ขันตอนการทำ
- อุปกรณ์
- การเลือกเนื้อผ้า

  ขั้นตอนการทำ

1. ขั้นตอนการวัดตัว เป็นการวัดขนาดเพื่อตรวจสอบความกว้าง ความยาว ความหนา ของสัดส่วน ซึ่งการวัดตัวนี้สำคัญมาก เพราะว่าจะส่งผลถึงลักษณะของผลสำเร็จ เช่น ผลงานได้สัดส่วน สวมใส่ได้สวยงามเหมาะสม หรือผลงานตึงรั้งสวมใส่ไม่ได้
 2. ขั้นตอนการสร้างแบบและแยกแบบ ทำได้โดยการนำสัดส่วนที่ได้วัดขนาดไว้หรือการออกแบบมาสร้างแบบตัดหรือแพ็ทเทิร์น (Pattern) ลงกระดาษสร้างแบบ ตามกระบวนการของการสร้างแบบเสื้อผ้าแต่ละชนิด เช่น สร้างแบบตัดเสื้อ สร้างแบบตัดกระโปรง สร้างแบบตัดกางเกง เป็นต้น
 3. ขั้นตอนการคำนวณผ้า เลือกผ้า การตัดเย็บเสื้อผ้านั้นเราควรคำนวณผ้าให้ถูกต้องเพื่อความประหยัดและเลือกผ้าให้เหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอย โดยคำนึงถึงคุณสมบัติของผ้า ซึ่งผลิตจากเส้นใยแต่ละชนิด เช่น ผ้าฝ้าย จะเป็นผ้าที่ได้จากเส้นใยของเมล็ดฝ้าย ซับน้ำได้ดี ทนต่อความร้อนสูง แต่ยับง่าย, ผ้าไนลอน เป็นผ้าใยสังเคราะห์ ไม่ทนต่อความร้อนและแสงแดด จับจีบได้ คงรูป เป็นต้น
 4. ขั้นจัดเตรียมผ้า เป็นการจัดเตรียมวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการเย็บทุกชนิด เช่น เข็ม ด้าย กรรไกร ผ้า จักรเย็บผ้าบริเวณปฏิบัติงาน และแสงสว่าง เป็นต้น
 5. ขั้นตอนการวางแบบตัดและตัดผ้า ในขั้นตอนนี้ควรระมัดระวัง โดยอ่านรายละเอียดบนแบบตัด การทำเครื่องหมายต่างๆ ที่เขียนไว้ และกดรอยผ้าเส้นเย็บทุกเส้น เพื่อเป็นเครื่องหมายหรือเป็นเส้นแนวในการเย็บ
 6. ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพ เป็นการตรวจสอบคุณภาพของงาน ซึ่งในการตรวจสอบคุณภาพของงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่สวยงาม ไม่ผิดพลาด ควรตรวจสอบทั้งขณะทำการเย็บ เช่น เนาลองตัว ตรวจสอบการประกอบการเย็บทุกขั้นตอน ตรวจสอบความเรียบร้อยของตะเข็บ เป็นต้น
 7. ขั้นตอนการแก้ไขจุดบกพร่อง ในการตัดเย็บผ้าทุกชนิด เมื่อพบข้อบกพร่องไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ได้ผลงานที่สวยงามและมีคุณภาพ

 อุปกรณ์

1. กระดาษสร้างแบบ จะเป็นกระดาษขาวปอนด์ หรือกระดาษปรูฟ (สีออกจะนวลๆ) ก็ได้ บอกทางร้านว่า ซื้อกระดาษสร้างแบบ อาจจะซื้อมาก-น้อย ได้ตามความต้องการ ถามทางร้านดูว่า ขายอย่างไร ลองซื้อมาสัก 12 แผ่น (1 โหล) ก่อนก็ได้ค่ะ
2. กระดาษพิมพ์การ์ด ลักษณะเหมือนกระดาษกล่องทั่วไป เนื้อแข็งและหนา เพื่อทำแบบตัดเบื้องต้น เป็นแม่แบบของกระโปรงตัวต่อไปโดยไม่ต้องมาสร้างแบบกันทุกครั้ง ใช้ประมาณ 5-6 แผ่น
3. กระดาษคาร์บอนใช้กลิ้งเส้นบนผ้า ต้องใช้เฉพาะกระดาษคาร์บอนที่กลิ้งผ้าเท่านั้น เพราะเมื่อซักแล้ว รอยกลิ้งจะหลุดออกหมด (ต่างกับกระดาษคาร์บอนที่ใช้รองเขียนใบเสร็จนะคะ อย่างนั้นรอยกลิ้งจะมีสีดำ น่าเกลียดติดทนนานทีเดียว) มีขายเป็นซอง มีสีต่างๆ ให้ใช้ใกล้เคียงกับสีผ้า
4. กรรไกรตัดผ้า ควรใช้กรรไกรอย่างดีขนาด 7-8 นิ้ว ปลายแหลม น้ำหนักเบา จะช่วยให้ตัดสบายไม่เจ็บมือ
5. กรรไกรตัดกระดาษเป็นกรรไกรราคาถูก ใช้ตัดกระดาษโดยเฉพาะ เพื่อถนอมกรรไกรอย่างดีไว้ตัดผ้า 6. เข็มสอย มีหลายเบอร์ ผ้าเนื้อหนาใช้เบอร์ 8 ผ้าเนื้อบางใช้เบอร์ 11 ปักลูกปัดใช้เบอร์ 12
7. เข็มหมุด นิยมใช้เข็มเล่มเล็กยาว หัวโต ขายเป็นกล่อง
8. หมอนปักเข็มหมุด เพื่อสะดวกในการหยิบเข็มหมุดใช้งาน
9. ขอบเอว เป็นผ้าเทปเนื้อแข็ง มีหลายขนาด สำหรับใส่ขอบเอวให้แข็ง และใช้คาดเอวเมื่อต้องการวัดตัว
10. ชอล์กคเขียนผ้าเป็นแป้งรูปสามเหลี่ยม ขอบบาง มีหลายสี ควรเลือกใช้สีใกล้เคียงกับสีผ้า ที่นิยมคือ ขาวกับเหลือง
11. ดินสอดำ ใช้ดินสอดำเนื้ออ่อน ขนาด HB ดีที่สุด อ้อ...อย่าลืมยางลบด้วยค่ะ
12. ดินสอแดง-น้ำเงิน เป็นดินสอ 2 สี ในแท่งเดียวกัน ใช้เขียนทับเส้นที่ต้องการ
 13. ด้ายเนา เป็นด้ายเนื้อเปื่อย ใช้เนาตะเข็บลองตัว เมื่อเย็บจักรทับจะดึงออกได้ง่าย
 14. ลูกกลิ้งใช้กลิ้งรอยบนผ้าและบนกระดาษ ชนิดฟันแหลมใช้กับผ้าเนื้อหนา ฟันทู่ใช้กับผ้าเนื้อห่าง ไม่มีฟันเลยใช้กับผ้าซาติน กลิ้งแล้ว เนื้อผ้าจะไม่ขาด
15. สายวัด ใช้อย่างดี มีตัวเลขทั้งนิ้วและเซนต์
16. สก๊อตเทป ใช้ติดกระดาษเมื่อแยกแบบ ดีกว่าแป้งเปียก
17. ที่เลาะผ้าเป็นเหล็ก 2 ขา ใช้เลาะผ้าได้รวดเร็ว
 18. ไม้บรรทัด ใช้ขนาดยาว 60 เซนต์ เนื้อพลาสติค
19. ไม้โค้ง มีทั้งพลาสติคและโลหะ ใช้ในการวางเส้นโค้งให้รวดเร็วและถูกต้อง

  ผ้าฝ้าย (cotton)

เป็นใยเซลลูโลสได้จากดอกของฝ้าย ผ้าที่ผลิตจากฝ้ายพันธุ์ดีเส้นใยยาว ผิวของผ้าจะเรียบเนียน และทนทาน คุณภาพของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับพันธุ์ ความยาวและความเรียบของเส้นใย ใยฝ้ายเองไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่เมื่อนำมาทอเป็นผ้า จะได้ผ้าที่แข็งแรง ยิ่งทอเนื้อหนาและแน่นจะยิ่งแข็งแรง ทนทาน ดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้ายเนื้อบางถึงเนื้อหนาปานกลาง ใช้เป็นชุดสวมในฤดูร้อนจะรู้สึกเย็นสบาย

              คุณลักษณะเด่นของผ้าฝ้ายคือ

              ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก แต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง (Finish) ทำให้ผ้าไม่ค่อยยับและรีด ให้เรียบได้ง่ายขึ้น - ซักได้ด้วยผงซักฟอก ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง - แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา

              ผ้าฝ้ายผสมกับผ้าใยสังเคราะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าผ้า T/C หรือ TC

             เป็นผ้าที่มีส่วนผสมเป็นใยสังเคราะห์ และนำเนื้อฝ้ายเข้ามาผสมรวมด้วย คุณสมบัติก็จะอยู่กลางระหว่างผ้า cotton และผ้า TK ผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรู เนื่องจากผ้าประเภท TK และ TC มีสมบัติในการระบายอากาศที่ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้า จึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศ และเพื่อความสบายในการสวมใส่เนื้อผ้า จะมีลักษณะความมัน (น้อยกว่า TK) ผ้าใยสังเคราะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าผ้า T/K หรือ TK เป็นผ้าที่มีส่วนผสมหลักเป็นใยสังเคราะห์ เนื้อผ้าจะมีลักษณะมัน คุณสมบัติ ทั่วๆไป คือ ผ้า TK จะไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่ย้วย สีไม่ตก แต่ข้อเสียก็คือเสื้อที่ทำจากผ้า TK ใส่แล้วจะร้อน เนื่องจากระบายอากาศไม่ดีผ้า TK จึงนิยมทอ ให้มีลักษณะเป็นรูเช่นกัน ทนทานหาได้ง่ายและวางขายตามท้องตลาด

            ผ้าโพลิเอสเตอร์ (Polyester)

            เส้นใยยาวมีลักษณะนุ่ม เงามัน เส้นใยสั้นมีลักษณะคล้ายฝ้าย และขนสัตว์ จึงเป็นเส้นใยที่ใช้เลียนแบบ และผสมกับเส้นใยอื่นได้ดี ใช้มากในวงการอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ดูดความชื้นได้น้อย น้ำหนักเบา ไม่ค่อยยับ รีดจับจีบถาวรได้ มักผลิตเป็นผ้าประเภท Wash and Wear คือ รีดเพียงเล็กน้อย หรือไม่จำเป็นต้องรีด ปัญหาที่พบคือ ถ้าผลิตจากใยสั้นใช้ไปแล้วจะเป็นขุย เมื่อเผาจะละลายเป็นยางสีดำ ถ้าเผาจนสิ้นสุดเถ้าบางส่วนจะกรอบ

            ผ้าขนสัตว์ (wool) 

           ผลิตจากขนสัตว์หลายชนิด เช่น แกะ แพะ อูฐ และกระต่าย แต่ที่ผลิตมากที่สุดได้แก่ขนแกะ ขนสัตว์จะให้ความอบอุ่นเพราะไม่นำความร้อน ดูดความชื้นได้ดีจึงสามารถถ่ายเทความชื้นจากร่างกาย หรือบรรยากาศทำให้ไม่เหนะหนะเวลาสวมใส่ เมื่อถูกความร้อนและชื้น ผ้าขนสัตว์จะเชื่อมติดกันเป็นแผ่น หดทุกครั้งเมื่อเปียก (Progressive Shrinkage) จึงไม่แนะนำให้ซักรีดเอง ควรส่งร้านที่มีความชำนาญในการซักรีดผ้าขนสัตว์ เว้นเสียจากจะมีป้ายที่ติดมากับเสื้อบอกไว้ว่า ซักรีดได้ (Washable) ผ้าขนสัตว์บางชนิดจะตกแต่งกันหด (Shrinkage Control) และป้องกันไม่ให้เชื่อมติดกันเมื่อซักรีด วิธีการดูแลรักษาอย่างง่าย คือใช้แปรงนุ่ม ๆ แปรงฝุ่นออกทุกครั้งหลังการใช้ ถ้าถูกน้ำให้สบัดออกอย่าแปรงขณะผ้าเปียก แขวนในที่มีอากาศโปร่ง อย่าใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันหลายวัน เพราะเมื่อขนสัตว์ถูกแรงถูไถไปมานาน ๆ จะแข็งเป็นมัน บางชนิดขนจะหลุดถ้าจะเก็บผ้าขนสัตว์ไว้ ควรซักแห้ง เก็บในถุงพลาสติคผนึกให้สนิท มอด (Moth) ชอบกินขนสัตว์มาก ผ้าทอขนสัตว์จะผลิตจากด้าย 2 ประเภท ทำให้คุณสมบัติและราคาต่างกันมากผ้าที่ผลิตจากด้าย woolen เรียก woolen fabric ทำจากเส้นใยที่ผ่านการสางครั้งเดียว เส้นใยมีความสั้น ยาว ปนกัน ผ้าค่อนข้างหยาบ บริเวณที่ถูกน้ำหนักกดทับเช่น ศอก เข้า ก้นมักจะเป็นโป่งเป็นถุงและเรียบเป็นมันผ้าที่ผลิตจากด้าย Worsted เรียก Worsted Fabric ทำจากเส้นใยที่ผ่านการสางสองครั้ง เส้นใยเล็ก ยาว ละเอียด ด้ายเข้าเกลียวแน่น ผ้าเนื้อเบา ละเอียดราคาแพง กว่า Woolen มาก

          ผ้าสแปนเด็กซ์ (Spandex)

          เป็นใยยางสังเคราะห์ที่รู้จักกันในนาม Lycraดึงยืดได้ 6-7 เท่าของความยาวเดิม ต้านทานแรงดึงได้สูง - คุณสมบัติของผ้าชนิดนี้คือ น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นได้ดี เมื่อสวมใส่แล้วสามารถยืดขยายออกได้ถึง 500% และสามารถคืนตัวกลับมาในสภาพเดิม และสามารถระบายเหงื่อได้ดีอีกด้วย - นอกจากคุณสมบัติที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น กางเกงจักรยานที่ตัดเย็บจากผ้าสแปนเด็กซ์นี้ยังช่วยต้านแรงลมได้ดี และยังช่วยป้องกันผิวหนังจากการเสียดสีกับอานจักรยาน หรือตัวถัง (Frame) ได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ผ้าชนิดนี้ ยังช่วยระบายเหงื่อออกจากผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือผดผื่น เมื่อสวมใส่เป็นเวลานานอีกด้วย

           ผ้าไหม (silk)

           เป็น เส้นใยโปรทีน ได้จากรัง (Cocoon) ของไหม ผ้ามีความมันนุ่มเป็นเงา ไม่ค่อยยับ คงรูปร่างได้ดีเหมาะสำหรับตัดชุด ดูดความชื้นได้ดี มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถปรับตัวให้เข้ากับอุณหภูมิได้ดี จะรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อน และจะอบอุ่นในหน้าหนาว การซักผ้าไหม ถ้าจะให้คงความเงามัน คงรูปร่างควรซักแห้ง ไหมบางชนิดซักได้ด้วยมือในน้ำสบู่อย่างอ่อน (ผงซักฟอกจะทำลายความเงามันของไหม)ใช้ผ้าหมาด ๆ ปิดทับขณะรีด เผาไฟจะหดหนีไฟ พองตัว ติดไฟได้ เถ้านุ่ม

          ไนลอน (Nylon)

           ค้นพบเมื่อ 1930 ครั้งแรกได้เป็นเส้น ๆ นำมาทำแปรงสีฟัน ในปี ค.ศ. 1940 ผลิตเป็นถุงน่องสตรี หลังจากนั้นได้พัฒนาเป็นเสื้อผ้าและของใช้มากมายหลายชนิดเส้นใยมีความเหนียว แข็งแรงทนทานมาก ยืดหยุ่นง่าย เมื่อถูกไฟจะละลาย ไม่ค่อยไหม้ ออกจากไฟจะดับ เถ้าเป็นก้อนแข็งบีบไม่แตก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น